Gps สำคัญแค่ไหนในปัจจุบัน

เรามารรู้กันก่อนดีกว่าว่า GPS คืออะไร? GPS หรือ Global Positioning System เป็นระบบนำทางด้วยดาวเทียมที่ประกอบด้วยดาวเทียมประมาณ 24 ดวง สามารถทำงานได้ทั่วโลกและทำงานในทุกสภาพอากาศตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องเสียค่าลงทะเบียนหรือค่าติดตั้ง เครื่องรับ GPS มีช่วงความแม่นยำระหว่าง 10 ถึง 100 เมตรสำหรับอุปกรณ์ส่วนใหญ่ ในขณะที่เครื่องรับแบบพิเศษที่ใช้ในงานทางทหารสามารถรับสัญญาณที่มีความแม่นยำสูงถึง 1 เมตร ในอดีตเครื่องรับ GPS ดังกล่าวใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางวิทยาศาสตร์เป็นหลัก อย่างไรก็ตามเนื่องจากต้นทุนการผลิตเครื่องรับ GPS ลดลง ประชาชนทั่วไปจึงสามารถเข้าถึงการใช้งานส่วนบุคคลได้มากขึ้น จึงทำให้คนทุกๆ กลุ่มสามารถที่จะเข้าถึงได้มากขึ้นและซื้อมาไว้ใช้งานส่วนตัวได้

อุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกับการนำทางด้วย GPS ประกอบด้วยอะไรบ้าง?

อุปกรณ์ที่สามารถใช้ร่วมกับการนำทางด้วย GPS ประกอบด้วยดังนี้

1. ตัวรับสัญญาณดาวเทียม (GPS Receiver Module)

โมดูลรับสัญญาณ GPS เป็นอุปกรณ์ที่สามารถรับสัญญาณจากดาวเทียม GPS เพื่อระบุตำแหน่งของตนเอง ประกอบด้วยชิปรับสัญญาณ GPS เสาอากาศ และส่วนประกอบอื่นๆ ชิปรับสัญญาณจะรับสัญญาณจากดาวเทียม GPS และเสาอากาศจะช่วยจับสัญญาณเหล่านี้ จากนั้นโมดูลจะใช้ข้อมูลนี้เพื่อคำนวณตำแหน่งเครื่องรับ ความเร็ว และเวลา

โมดูลรับสัญญาณ GPS สามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และระบบนำทาง เป็นองค์ประกอบที่จำเป็นสำหรับอุปกรณ์ใด ๆ ที่ต้องใช้บริการตามตำแหน่ง สามารถรวมโมดูลเข้ากับแผงวงจรของอุปกรณ์ได้โดยตรง หรือสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ผ่านอินเทอร์เฟซการสื่อสาร เช่น UART หรือ USB

โมดูลรับสัญญาณ GPS มีหลายขนาดและรูปร่าง โดยมีระดับความไวและความแม่นยำที่แตกต่างกันไป โมดูลรับสัญญาณ GPS บางโมดูลสามารถให้ความแม่นยำของการวัดย่อย ทำให้เหมาะสำหรับการสำรวจและการใช้งานที่มีความแม่นยำอื่นๆ ส่วนอื่นๆ ได้รับการออกแบบสำหรับใช้ในอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานต่ำและมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น

โดยสรุป โมดูลรับสัญญาณ GPS คือชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ช่วยให้อุปกรณ์สามารถรับและประมวลผลสัญญาณ GPS ทำให้สามารถระบุตำแหน่งของตนเองและให้บริการตามตำแหน่งได้

2. หน่วยประมวลผล (CPU)

CPU หรือ Central Processing Unit เป็นส่วนประกอบหลักของคอมพิวเตอร์ที่ทำงานด้านการประมวลผลส่วนใหญ่ เป็นที่รู้จักกันว่า “สมอง” ของคอมพิวเตอร์ CPU มีหน้าที่ดึงข้อมูล ถอดรหัส และดำเนินการคำสั่งจากหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์ ทำการคำนวณ ตัดสินใจเชิงตรรกะ และควบคุมอินพุตและเอาต์พุตของข้อมูล

CPU ประกอบด้วยสองส่วนหลัก: หน่วยควบคุมและหน่วยตรรกะเลขคณิต หน่วยควบคุมจัดการการไหลของข้อมูลภายใน CPU และระหว่าง CPU และส่วนประกอบอื่นๆ ของคอมพิวเตอร์ ในขณะที่หน่วยตรรกะเลขคณิตดำเนินการทางคณิตศาสตร์และตรรกะกับข้อมูล

CPU มีหลายประเภทและหลายความเร็ว ตั้งแต่รุ่นพื้นฐานที่พบในคอมพิวเตอร์ระดับล่างไปจนถึงโปรเซสเซอร์ประสิทธิภาพสูงที่ใช้ในการเล่นเกมและแอพพลิเคชั่นระดับมืออาชีพ ผู้ผลิต CPU รายใหญ่บางราย ได้แก่ Intel, AMD และ ARM

3. โปรแกรมการนำทาง (Application Software)

ซอฟต์แวร์ประยุกต์หมายถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือซอฟต์แวร์ประยุกต์ที่ออกแบบมาเพื่อทำงานหรือฟังก์ชันเฉพาะสำหรับผู้ใช้ เป็นซอฟต์แวร์ประเภทหนึ่งที่สร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการและข้อกำหนดเฉพาะของบุคคล ธุรกิจ หรือองค์กร

ซอฟต์แวร์แอปพลิเคชันมีตั้งแต่เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานพื้นฐาน เช่น โปรแกรมประมวลผลคำและซอฟต์แวร์สเปรดชีต ไปจนถึงระบบที่ซับซ้อน เช่น ซอฟต์แวร์การวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) ที่องค์กรขนาดใหญ่ใช้ ตัวอย่างของซอฟต์แวร์ประยุกต์ ได้แก่ เว็บเบราว์เซอร์ อีเมลไคลเอ็นต์ เครื่องเล่นมีเดีย ซอฟต์แวร์บัญชี ซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอ และอื่นๆ อีกมากมาย

ซึ่งแตกต่างจากซอฟต์แวร์ระบบซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์แอปพลิเคชันไม่จำเป็นต้องใช้ในการทำงานของคอมพิวเตอร์ แต่ช่วยเพิ่มความสามารถของผู้ใช้ในการทำงานบางอย่าง โดยทั่วไปแล้วซอฟต์แวร์แอปพลิเคชันได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและสามารถติดตั้งและใช้งานได้บนระบบปฏิบัติการต่างๆ รวมถึง Windows, Mac และ Linux

4. ข้อมูลแผนที่นำทาง (Map Data)

ข้อมูลแผนที่หมายถึงข้อมูลดิจิทัลที่ใช้สร้างแผนที่และให้บริการตามตำแหน่ง ประกอบด้วยข้อมูลทางภูมิศาสตร์ประเภทต่างๆ เช่น เครือข่ายถนน จุดสนใจ การใช้ที่ดิน ภูมิประเทศ และอื่นๆ ข้อมูลแผนที่ถูกเก็บรวบรวมด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ภาพถ่ายดาวเทียม ภาพถ่ายทางอากาศ การสำรวจภาคสนาม และการจัดหาฝูงชน

จากนั้น ข้อมูลแผนที่จะถูกประมวลผลและจัดระเบียบเพื่อสร้างแผนที่ที่มีรายละเอียดและแม่นยำ ซึ่งสามารถนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น การนำทาง การวางผังเมือง และการจัดการเหตุฉุกเฉิน ข้อมูลแผนที่มักถูกจัดเก็บไว้ในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) และใช้ในแอพพลิเคชั่นต่างๆ เช่น อุปกรณ์นำทาง GPS บริการแผนที่ออนไลน์ และแอพมือถือ

ความถูกต้องและคุณภาพของข้อมูลแผนที่มีความสำคัญต่อการให้บริการตามตำแหน่งที่เชื่อถือได้และเป็นประโยชน์ ดังนั้น ข้อมูลแผนที่จึงได้รับการปรับปรุงและปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมและโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนใหม่ อาคาร และจุดสังเกต

ปัจจุบันเทคโนโลยี GPS ได้พัฒนาให้สะดวกและเสถียรมากขึ้น อุปกรณ์นำทางส่วนบุคคล/แบบพกพา (PND) และเครื่องรับที่ใช้ GPS ซึ่งรวมเข้ากับ Personal Digital Assistants (PDA), Pocket PC, โน้ตบุ๊ก, สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์อื่นๆ ให้การนำทาง GPS ที่เชื่อถือได้และแม่นยำ อันที่จริง สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่มาพร้อม GPS ในตัว ทำให้นักเดินทางค้นหาสถานที่ใกล้เคียงได้สะดวกยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น สามารถเพิ่มเสาอากาศหรือตัวกระจายสัญญาณ GPS ภายนอกเป็นอุปกรณ์เสริมเพื่อให้แน่ใจว่ารับสัญญาณ GPS ได้แม้ในพื้นที่ที่รับสัญญาณได้ไม่ดี ความก้าวหน้าเหล่านี้ทำให้นักเดินทางสามารถนำทางและสำรวจพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคยได้ง่ายขึ้น

GPS มีประโยชน์สำหรับการขับรถอย่างไรในปัจจุบัน?

เมื่อขับรถในยุคปัจจุบัน การใช้ GPS ในการนำทางแทบจะเป็นสิ่งจำเป็น เราสามารถกำหนดเส้นทางของเราได้ตั้งแต่เริ่มต้นการเดินทาง และโปรแกรมจะให้สัญญาณภาพและการได้ยินตามตำแหน่งปัจจุบันของเรา หากเราออกนอกเส้นทางที่วางแผนไว้ โปรแกรมจะออกคำเตือนและคำนวณเส้นทางใหม่เพื่อให้เรากลับมาสู่เส้นทางเดิม นอกจากนี้หากเราอยู่ห่างจากเส้นทางที่กำหนดเกินระยะที่กำหนด โปรแกรมจะคำนวณเส้นทางใหม่ให้โดยอัตโนมัติ ขณะที่เราเดินทาง เรายังสามารถประเมินเวลาการเดินทางของเราและรู้ว่าเราจะถึงจุดหมายปลายทางเมื่อใดและในขณะเดินทางเราสามารถรู้เวลาการเดินทางได้ด้วยว่าอีกนานแค่ไหนเราจะถึงจุดหมายอีกทั้งเรายังรู้เส้นทางลัดต่างที่สามารถประหยัดเวลาในการเดินทางได้อีกด้วย

GPS สำคัญมากสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน เพราะยุคสมัยได้เปลี่ยนมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากยิ่งขึ้นเราก็สามารถใช้ GPS นำทางแทนการใช้แผนที่แบบเก่าหรือการจำทางเอาเองได้เพราะอาจจะทำให้เราไปถึงจุดหมายปลายทางได้ล่าช้าหรือแย่ไปกว่านั้นคืออาจจะทลงทางได้ อีกทั้ง GPS ในปัจจุบันมีความแม่นยำค่อนข้างมากถึงตอบโจทย์สำหรับการใช้ชีวิตในปัจจุบันอันเร่งรีบเป็นอย่างมากและสะดวกสบายในการเดินทางมากๆ เลยทีเดียว